
Super User
ประกาศแผนพัฒนาท้องถิ่น (2566-2570) เปลี่ยนแปลง ครั้งที่ 1/2566 ขององค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม
วัดป่าสุภัททะมงคล (สาขา 35 วัดหนองป่าพง) ตำบลยางสักกระโพหลุ่ม อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
"วัดป่าสุภัททะมงคล" สาขาที่ ๓๕ ของ วัดหนองป่าพง (เดิมคือ สำนักสงฆ์วัดป่าเครือวัลย์) ตั้งอยู่ที่ เลขที่ ๑๙๗ บ้านยางเครือ หมู่ ๙ ตำบลยางสักกระโพหลุ่ม อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
แผนอัตรากำลัง 3 ปี ประจำปีงบประมาณ 2564-2566 ปรับปรุงครั้งที่ 1 ขององค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม
ด้วย องต์การบริหารส่วนยางสักกระโพหลุ่ม ได้จัดทำแผนอัตรากำลัง 3 ปี ประจำปีงบประมาณ 2564-2566 ปรับปรุงครั้งที่ 1 ขององค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกฏหมายที่กำหนด จึงขอประชาสัมพันธ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน (รายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่แนบมาด้วยนี้)
ราคากลางประกวดราคาจ้างก่อสร้างก่อสร้างท่อระบายน้ำ หมู่ที่ 9 บ้านยางเครือ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) (เลขที่โครงการ : 66059419909)
ราคากลางประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กทางเข้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองแฝก ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) (เลขที่โครงการ : 66049266822)
ราคากลางประกวดราคาจ้างก่อสร้างปรับปรุงถนนลูกรัง หมู่ 1 บ้านยางสักกระโพหลุ่ม ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) (เลขที่โครงการ : 66069085353)
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบของบ้านเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560
- พระราชบัญญัติ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562
- พระราชบัญญัติ บำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2556
- พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
- พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559
- พระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2560
- พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2561
- พระราชกฤษฎีกาให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ.2521 ถึง พ.ศ.2524 มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ.2562
- พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556
- พระราชบัญญัติ บำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2556
- พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับภาษาอังกฤษ)
- พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖
- พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
- พระราชกฤษฎีกากำหนดเงินประจำตำแหน่งเงินค่าเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานสภาเมืองพัทยารองประธานสภาเมืองพัทยาสมาชิกสภาเมืองพัทยาเลขานุการประธานสภาเมืองพัทยาผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาเมืองพัทยาและกรรมการหรืออนุกรรมการของสภาเมืองพัทยาฉบับที่2พ.ศ.2548
- พระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2552
- พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2552
- พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2552
- พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2552
- พระราชกฤษฎีการะเบียบพนักงานเทศบาล (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2525
- พระราชกฤษฎีการะเบียบพนักงานเทศบาล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2521
- พระราชกฤษฎีการะเบีย บพนักงานเทศบาล (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2542
- พระราชกฤษฎีการะเบียบพนักงานส่วนตำบล พ.ศ.2539
- พระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนกรรมการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 พ.ศ.2543
- พระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนกรรมการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550
- พระราชกฤษฎีกากำหนดเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของนายกเมืองพัทยา รองนายกเมืองพัทยา เลขานุการนายกเมืองพัทยา ผู้ช่วยเลขานุการนายกเมืองพัทยา และประธานที่ปรึกษาหรือที่ปรึกษาของนายกเมืองพัทยา พ.ศ.2543
- พระราชกฤษฎีกากำหนดเงินประจำตำแหน่ง เงินค่าเบี้ยประชุมและผลประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานสภาเมืองพัทยา รองประธานสภาเมืองพัทยา สมาชิกสภาเมืองพัทยา เลขานุการประธานสภาเมืองพัทยา ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาเมืองพัทยาและกรรมการหรืออนุกรรมการของสภาเมืองพัทยา พ.ศ.2543
- พระราชกฤษฎีกากำหนดท้องที่กันดารที่จะต้องเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2500 พ.ศ.2501
- พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562
- พระราชบัญญัสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล(ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562
ผังโครงสร้างหน่วยงาน
องค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดทำข้อมูลผังโครงสร้างหน่วยงาน เพื่อประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ แก่ผู้สนใจ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่แนบมาด้วยนี้ จึงประชาสัมพันธ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สภาพทั่วไป
องค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม เป็นองค์การบริหารส่วนตำบล 1 ใน 14 องค์การบริหารส่วนตำบลของ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับยกฐานะจากสภาตำบล เป็น องค์การบริหารส่วนตำบล ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย และมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2539 ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 บ้านยางสักกระโพหลุ่ม อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอม่วงสามสิบ ประมาณ 9 กิโลเมตร และอยุ่ห่างจากจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 25 กิโลเมตร
เนื้อที่
องค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม มีเนื้อที่ทั้งหมด 68.31 ตารางกิโลเมตร หรือ 42,693.75 ไร่ ดังนี้
หมู่ที่ | ชื่อหมู่บ้าน | เนื้อที่ (ไร่) |
---|---|---|
1 | บ้านยางสักกระโพหลุ่ม | 4,698 |
2 | บ้านนาดี | 1,594 |
3 | บ้านหนองบัวแดง | 3,997 |
4 | บ้านแคน | 2,796 |
5 | บ้านหนองแฝก | 5,194 |
6 | บ้านดอนก่อ | 2,094 |
7 | บ้านยางสักกระโพหลุ่ม | 3,696 |
8 | บ้านยางเทิง | 5,845 |
9 | บ้านยางเครือ | 7,194 |
10 | บ้านนาหนองล้ำ | 3,394 |
11 | บ้านนาดี | 2,194 |
อาณาเขต
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลม่วงสามสิบ และ ตำบลเตย อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
- ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลหัวเรือ และ ตำบลขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลเตย, ตำบลโพนเมือง อำเภอม่วงสามสิบ และ ตำบลแพงใหญ่ อำเภอเหล่าเสือโก้ก จังหวัดอุบลราชธานี
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลหนองไข่นก และ ตำบลโพนแพง อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
ลักษณะภูมิเทศ
พื้นที่โดยทั่วไปของตำบลยางสักกระโพหลุ่ม มีลักษณะเป็นที่ราบสูง สภาพดินในพื้นที่ มีลักษณะเป็นดินร่วน ดินร่วนปนทราย และดินนา มีการระบายน้ำดี มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง ถึงต่ำ ใชประโยชน์ในการทำนา และทำสวน โดยในพื้นที่ พบปัญหาสภาพดินเค็มในบางหมู่บ้าน
ลักษณะภูมิอากาศ
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนกันยายน และมักจะปรากฏเสมอว่าฝนจะทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน แต่ระยะเวลาการทิ้งช่วงมักจะไม่เหมือนกันในแต่ละปีและในช่วงปลายฤดูฝนมักจะมีพายุดีเปรสชั่น ฝนตกชุกบางปีอาจเกินภาวะน้ำท่วม
ฤดูหนาว ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือก่อนภูมิภาคอื่นโดยอุณหภูมิจะเริ่มลดต่ำลง ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ และจะหนาวจัดในช่วงมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ในระดับ 19.4 องศาเซนเซียส
ฤดูร้อน อากาศจะเริ่มร้อนในเดือน มีนาคม ไปจนถึงเดือน พฤษภาคม ซึ่งอาจมีฝนเริ่มตกอยู่บ้างในปลายเดือนเมษายน และพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ในระดับ 27.5 องศาเซนเซียส
ลักษณะของแหล่งน้ำ
ตำบลยางสักกระโพหลุ่ม เป็นตำบลที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่ป่าสาธารณะประโยชน์ มีหนองน้ำขนาดใหญ่หลายแห่งที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ และสามารถปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และอนุรักษ์ ให้กับประชาชน ได้ใช้เป็นสถานที่พักผ่อน หย่อนใจ และออกกำลังกายได้ ดังนี้
- ลำน้ำ, ลำห้วย 7 สาย
- บึง, หนองและอื่นๆ 43 แห่ง
- ฝาย 4 แห่ง
- บ่อน้ำตื้น 22 แห่ง
- บ่อโยก 22 แห่ง
- ประปา 12 แห่ง
- สระน้ำ 21 แห่ง
ลักษณะของไม้และป่าไม้
ลักษณะของไม้และป่าไม้ในเขตตำบลยางสักกระโพหลุ่มคือ ไม้ยางนา ขึ้นอยู่ในป่าสาธารณะบ้านยางเทิง และในพื้นที่ทั่วไป พื้นที่ป่าไม้ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่มจะมีอยู่ตามหัวไร่ ปลายนา และที่สาธารณะ เช่น ไม้ยาง ไม้ประดู่ และที่มีอยู่ตามไร่นาของเกษตรกร ใช้ประโยชน์เป็นเชื้อเพลิงหุงต้มเป็นบางส่วน ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เช่น ไม้ยูคาลิปตัส ไม้กระถินณรงค์ แหล่งน้ำ มีแหล่งน้ำธรรมชาติที่สำคัญในพื้นที่ คือ ห้วยสะแบก ห้วยกุดปลา เป็นต้น
เขตการปกครอง
เขตพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม มีหมู่บ้าน ทั้งหมด 11 หมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เต็มส่วนทั้ง 11 หมู่บ้าน
ประชากร
ตำบลยางสักกระโพหลุ่ม มีประชากรทั้งสิ้น จำนวน 6,810 คน โดยแยกเป็น ชาย จำนวน 3,419 คน เป็นหญิง จำนวน 3,391คน ดังนี้
หมู่ที่ | ชื่อหมู่บ้าน | หลังคาเรือน | ชาย | หญิง | รวม |
---|---|---|---|---|---|
1 | บ้านยางสักกระโพหลุ่ม | 182 | 234 | 201 | 435 |
2 | บ้านนาดี | 175 | 264 | 336 | 630 |
3 | บ้านหนองบัวแดง | 221 | 357 | 338 | 695 |
4 | บ้านแคน | 154 | 276 | 252 | 528 |
5 | บ้านหนองแฝก | 184 | 339 | 306 | 645 |
6 | บ้านดอนก่อ | 114 | 210 | 244 | 454 |
7 | บ้านยางสักกระโพหลุ่ม | 245 | 313 | 334 | 647 |
8 | บ้านยางเทิง | 249 | 458 | 464 | 922 |
9 | บ้านยางเครือ | 244 | 485 | 470 | 955 |
10 | บ้านนาหนองล้ำ | 120 | 220 | 208 | 428 |
11 | บ้านนาดี | 135 | 233 | 238 | 471 |
ที่มา : สำนักทะเบียนอำเภอม่วงสามสิบ (ข้อมูล ณ เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2567)
การศึกษา
พื้นที่รับผิดชอบองค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม มีสถานศึกษา/แหล่งที่ให้ความรู้กับเด็กนักเรียน จำนวน 8 แห่ง ดังนี้
- โรงเรียนบ้านยางสักกระโพหลุ่ม ตั้งอยู่ที่ 1 เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษาถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
- โรงเรียนบ้านนาดีทุ่งเจริญ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษาถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
- โรงเรียนบ้านหนองบัวแดง ตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษา (ป.1 - ป.6)
- โรงเรียนบ้านหนองแฝก-ยางเครือ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 5 เปิดสอบระดับชั้นประถมศึกษา (ป.1 - ป.6)
- โรงเรียนบ้านยางเทิง ตั้งอยู่ หมู่ที่ 8 เปิดสอบระดับชั้นประถมศึกษา (ป.1 - ป.6)
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนยางสักกระโพหลุ่ม ตั้งอยู่ หมู่ที่ 7
- ศูนย์อบรมเด็กเล็กก่อนวัยเรียนวัดบ้านนาดี ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2
- ศูนย์อบรมเด็กเล็กก่อนวัยเรียนวัดบ้านหนองแฝก ตั้งอยู่ หมู่ที่ 5
สาธารณสุข
พื้นที่รับผิดชอบองค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม มีหน่วยงานให้บริการด้านการสาธารณสุข จำนวน 3 แห่ง ดังนี้
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ยางสักกระโพหลุ่ม
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ยางเครือ
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) นาดี
การคมนาคมขนส่ง
มีเส้นทางการคมนาคมขนส่งทางบก โดยมีถนนสายสำคัญ คือ ถนนสายชยางกูร – อำเภอม่วงสามสิบ สามารถเชื่อมโยงติดต่อกับท้องถิ่นใกล้เคียงภายในเขตอำเภอม่วงสามสิบและอำเภอใกล้เคียงภายในจังหวัดอุบลราชธานีได้อย่างสะดวกสบาย
สำหรับการติดต่อสัญจรไปมาระหว่างชุมชนภายในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่มนั้น สามารถใช้ติดต่อสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถนนลาดยาง และถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยที่องค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม มีถนนภายในพื้นที่ ดังนี้
- ถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 53 สาย
- ถนนลาดยาง จำนวน 29 สาย
- ถนนดิน/ถนนลูกรัง จำนวน 81 สาย
- สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 8 สาย
ไฟฟ้า
ปัจจุบันการให้บริการด้านไฟฟ้าภายในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม สามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 99% ของพื้นที่ในส่วนของไฟฟ้าสาธารณะและไฟส่องสว่าง องค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม สามารถให้บริการได้คิดเป็นร้อยละ 99 โดยครอบคลุมพื้นที่ตำบล ทั้ง 11 หมู่บ้าน ยังคงมีเหลือเพียงส่วนน้อยที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่มจะต้องดำเนินการจัดหาให้มีไฟฟ้าสาธารณะส่องสว่าง
ประปา
องค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่ม มีประปาใช้ในการอุปโภคบริโภค 99% ของพื้นที่ซึ่งสามารถผลิตน้ำประปาและให้บริการผู้ใช้น้ำภายในเขตตำบลยางสักกระโพหลุ่มได้อย่างทั่วถึง และมีโครงการที่จะปรับปรุงระบบการผลิตและขยายเขตการให้บริการออกไปให้ประชาชนได้ใช้น้ำที่สะอาดและได้มาตรฐาน สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
เครือข่ายโทรศัพท์
การสื่อสารของประชาชนตำบลยางสักกระโพหลุ่มที่สำคัญคือ มีโทรศัพท์สาธารณะครบทุกหมู่บ้าน แต่เนื่องจากว่าปัจจุบันระบบโทรศัพท์สาธารณะไม่ได้รับความนิยม และประชาชนส่วนใหญ่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้นอกจากโทรศัพท์
ไปรษณีย์หรือการสื่อสารหรือการขนส่ง และวัสดุ ครุภัณฑ์
ประชาชนตำบลยางสักกระโพหลุ่มได้ใช้บริการของ ไปรษณีย์โทรเลข การรับรู้ข้อมูล ข่าวสาร ของประชาชน ตำบลยางสักกระโพหลุ่มสามารถรับฟังสถานีวิทยุได้ 1 แห่ง คือ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย การรับภาพของสถานีโทรทัศน์ส่วนใหญ่ สามารถรับภาพจากสถานีโทรทัศน์ได้ 3 ช่อง คือ ช่อง 3, 5, 7, ได้ไม่ชัดเจนนักต้องใช้จานดาวเทียมช่วย
การท่องเที่ยว
ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่มนั้นไม่มีแหล่งท่องเที่ยว แต่มีหนองน้ำขนาดใหญ่หลายแห่งที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ และสามารถปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และอนุรักษ์ ให้กับประชาชน ได้ใช้เป็นสถานที่พักผ่อน หย่อนใจ และออกกำลังกายได้
การพาณิชย์และกลุ่มอาชีพ
การประกอบการค้า และบริการในด้านการพาณิชย์และกลุ่มอาชีพองค์การบริหารส่วนตำบลยางสักกระโพหลุ่มส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณสองข้างทางและในหมู่บ้าน เป็นร้านขายของชำ กลุ่มอาชีพต่างๆ เช่น
- กลุ่มช่างไม้ฝีมือ หมู่ที่ 2
- กลุ่มเพาะเห็ด หมู่ที่ 2
- กลุ่มเพาะเลี้ยงปลา หมู่ที่ 2
- กลุ่มนาแปลงใหญ่หมู่ที่ 4
- กลุ่มทอผ้ากาบบัว หมู่ที่ 9
- กลุ่มอาชีพจักรสาน หมู่ที่ 11
- กลุ่มปลูกพริก หมู่ที่ 5
- กลุ่มลงทุนเพื่อการเกษตร หมู่ที่ 10
- กลุ่มทำนาปลอดสารพิษ หมู่ 8
- กลุ่มปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ หมู่ 2
- กลุ่มปลูกข้าวปลอดสารพิษ หมู่ 10
- กลุ่มปลูกผักคื่นฉ่าย หมู่ 7
- กลุ่มเพาะเลี้ยงปลา หมู่ 11
การจัดการความรู้ (Knowledge Management) เพื่อเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization )
ความหมายของ "การจัดการความรู้" (Knowledge Management: KM)
การจัดการความรู้ หรือ KM ซึ่งที่ย่อมาจากคำว่า “Knowledge Management” คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในส่วนราชการซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคล หรือ เอกสาร มาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้และพัฒนาตนเองให้เป็ นผู้รู้ นำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภา พ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด (อ้างอิงจาก สำนักงาน ก.พ.ร.)
KM ไม่ใช่เป้าหมาย แต่เป็นเครื่องมือ ที่จะช่วยให้มีการสร้าง รวบรวม จัดระบบ เผยแพร่ ถ่ายโอนความรู้ที่เป็นประโยชน์เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน สถานการณ์ต่างๆ ได้ทันเวลา และทันเหตุการณ์ จะส่งผลให้การปฏิบัติงานของคนในองค์กรมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้องค์กรบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ พันธกิจขององค์กร และเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization )
ความหมายและรูปแบบของความรู้
ความรู้ คือ สิ่งที่สั่งสมมาจากการศึกษา เล่าเรียน การค้นคว้า หรือประสบการณ์ รวมทั้งความสามารถเชิงปฏิบัติและทักษะความเข้าใจ หรือ สารสนเทศที่ได้รับมาจากประสบการณ์ สิ่งที่ได้รับมาจากการได้ยิน ได้ฟัง การคิด หรือ การปฏิบัติ องค์วิชาในแต่ละสาขา (ที่มา : พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน)
รูปแบบของความรู้ มี 2 ประเภท คือ
1. ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้ โดยผ่านวิธีการต่าง ๆ เช่น การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ทฤษฎี คู่มือต่าง ๆ เอกสาร กฏระเบียบ วิธีการปฏิบัติงาน สื่อต่างๆ เช่น VCD DVD Internet เทป เป็นต้น และบางครั้งเรียกว่า ความรู้แบบรูปธรรม
2. ความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ พรสวรรค์หรือสัญชาตญาณของแต่ละบุคคลในการทำความเข้าใจในสิ่งต่า ง ๆ เป็นความรู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด หรือลายลักษณ์อักษรได้โดยง่าย เช่น ทักษะในการทำงาน งานฝีมือ ประสบการณ์ แนวความคิด บางครั้งจึงเรียกว่า ความรู้แบบนามธรรม
การกำหนดขอบเขตและเป้าหมายของการจัดการความรู้
ก่อนที่จะมี จัดการความรู้ หรือทำ KM จะต้องมีการกำหนดขอบเขต และเป้าหมาย KM ก่อน ซึ่ง ขอบเขต KM เป็นหัวเรื่องกว้าง ๆของความรู้ที่จำเป็นและสอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์ตามแผนบริห ารราชการแผ่นดิน ซึ่งต้องการจะนำมากำหนดเป้าหมาย KM ซึ่งแต่ละองค์กรสามารถใช้แนวทาง ในการกำหนดขอบเขตและเป้าหมาย KM เพื่อจัดทำแผนการจัดการความรู้ขององค์กร ได้ 4 แนวทาง คือ
- แนวทางที่ 1 เป็นความรู้ที่จำเป็นและสนับสนุนวิสัยทัศน์ พันธกิจ ประเด็นยุทธศาสตร์ขององค์กร
- แนวทางที่ 2 เป็นความรู้ที่สำคัญต่อองค์กร เช่น ความรู้เกี่ยวกับลูกค้า ประสบการณ์ความรู้ที่สั่งสมมา
- แนวทางที่ 3 เป็นปัญหาที่องค์กรประสบอยู่ และสามารถนำ KM มาช่วยได้
- แนวทางที่ 4 เป็นแนวทางผสมกันระหว่างแนวทางที่ 1 , 2 หรือ 3 หรือจะเป็นแนวทางอื่นที่องค์กรเห็นว่าเหมาะสม
แนวทางการตัดสินใจเลือกขอบเขต KM
การตัดสินใจเลือกขอบเขต KM อาจใช้แนวทางต่อไปนี้ มาช่วยในการตัดสินใจว่า ขอบเขต KM ใดที่องค์กรจะคัดเลือกมาจัดทำแผนการจัดการความรู้ขององค์กร เช่น
- ความสอดคล้องกับทิศทางและประเด็นยุทธศาสตร์ในระดับของหน่วยงานต นเอง
- ทำให้เกิดการปรับปรุงที่เห็นได้ชัดเจน หรือเป็นรูปธรรม
- มีโอกาสทำได้สำเร็จสูง (โดยพิจารณาจากความพร้อมด้านคน งบประมาณ เทคโนโลยี วัฒนธรรมองค์กร ระยะเวลาดำเนินงาน ฯลฯ)
- เป็นเรื่องที่ต้องทำ คนส่วนใหญ่ในองค์กรต้องการให้ทำ
- เป็นเรื่องที่ผู้บริหารให้การสนับสนุน
- เป็นความรู้ที่ต้องนำมาจัดการอย่างเร่งด่วน
- แนวทางอื่น ๆ ที่องค์กรเห็นว่าเหมาะสม
กระบวนการจัดการความรู้ และกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อสนับสนุนการจัดการความรู้
กระบวนการจัดการความรู้ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. และสถานบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เสนอให้ส่วนราชการนำมาจัดทำแผนการจัดการความรู้ และสอดคล้องกับขอบเขตและเป้าหมาย KM ขององค์กร มี 2 แนวคิด คือ
- แนวคิดเรื่องกระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management Process)
- แนวคิดเรื่องกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management Process)
1. แนวคิดเรื่องกระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management Process)
เป็นกระบวนการแบบหนึ่งที่จะช่วยให้องค์กรเข้าใจถึงขั้นตอนที่ทำ ให้เกิดกระบวนการจัดการความรู้ หรือพัฒนาการของความรู้ที่จะเกิดขึ้นในองค์กร ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ดังนี้
- การบ่งชี้ความรู้ คือ การค้นหาและระบุให้ได้ว่า การที่องค์กรจะบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ ขององค์กร และ คนในองค์กรจำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง ขณะนี้มีความรู้อะไรบ้าง อยู่ในรูปแบบใด เช่น อยู่ในเอกสาร ฐานความรู้ หนังสือเวียน หรือในตัวบุคคล และอยู่ที่ใครบ้าง เป็นต้น
- การสร้างและแสวงหาความรู้ โดยการสร้างความรู้ใหม่ที่จำเป็นต่อองค์กร การแสวงหาความรู้จากภายนอกองค์กร ( องค์กรที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับความรู้ที่ต้องการเป็นพิเศษ) การรักษาความรู้เก่าที่มีอยู่และยังเป็นประโยชน์ต่อองค์กร ตลอดจนการกำจัดความรู้ที่ใช้ไม่ได้แล้ว เป็นต้น
- การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ คือ การวางโครงสร้างความรู้ในองค์กรเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเก็บค วามรู้อย่างเป็นระบบในอนาคต
- การประมวลและกลั่นกรองความรู้ คือ การปรับปรุงเอกสาร โปรแกรมการจัดเก็บเอกสารให้เป็นมาตรฐาน โดยใช้รูปแบบและเนื้อหาเดียวกัน และปรับปรุงเนื้อหาให้สมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการนำความรู้ไปใช้ได้อย่างสะดวกรวดเร็วมา กขึ้น
- การเข้าถึงความรู้ คือ การกำหนดรูปแบบและวิธีการที่จะทำให้คนในองค์กร สามารถเข้าถึงความรู้ได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การฝึกอบรม การทำหนังสือเวียน การจัดทำ Website Web Board เป็นต้น
- การแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คือ การที่คนในองค์กรนำความรู้ที่มีอยู่มาแลกเปลี่ยนกัน ทั้งในรูปแบบที่จับต้องได้ เช่น เอกสาร ฐานความรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศ Intranet หรือในรูปแบบที่ไม่สามารถจับต้องได้ เช่น การจัดทีมข้ามสายงาน การจัดกิจกรรมกลุ่มคุณภาพและนวัตกรรม การจัดชุมชนแห่งการเรียนรู้ การใช้ระบบพี่เลี้ยงเพื่อสอนงาน การสับเปลี่ยนสายงาน การยืมตัว และการจัดเวทีความคิดเห็น เป็นต้น
- การเรียนรู้ คือ การที่คนในองค์กรนำองค์ความรู้ที่ได้รับมาในรูปแบบและวิธีการต่ าง ๆ ไปใช้ในการปฏิบัติงาน โดยมีการเรียนรู้และสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ และนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ใหม่ในองค์กร
2. แนวคิดเรื่องกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management Process)
เป็นกรอบแนวคิดแบบหนึ่งเพื่อให้องค์กรที่ต้องการจัดการความรู้ภ ายในองค์กร ได้มุ่งเน้นถึงปัจจัยแวดล้อมภายในองค์กร ที่จะมีผลกระทบต่อการจัดการความรู้ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ดังนี้
- การเตรียมความพร้อมและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคนในองค์ก ร คือ ก ารเน้นให้ผู้บริหารเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการความรู้ การแก้ไขกฎระเบียบให้มีความยืดหยุ่น การสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างให้โอกาสพนักงานแสดงความคิดเห็น และการส่งเสริมการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เช่น การประกาศนโยบายการจัดการความรู้ให้ทุกคนทราบ เป็นต้น
- การสื่อสาร เพื่อทำให้ทุกคนในองค์กรอยากให้ความร่วมมือในการจัดการความรู้ใ นองค์กร โดยการเน้นทุกคนเข้าใจถึงสิ่งที่องค์กรจะทำ ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับทุกคน และแต่ละคนจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร ผ่านช่องทางการสื่อสารในรูปแบบต่าง เช่น จดหมายเวียน E-Mail Intranet เป็นต้น
- กระบวนการและเครื่องมือ เพื่อทำให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลความรู้ในองค์กร และสามารถเข้าถึง ค้นหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่าย สะดวก รวดเร็วมากขึ้น โดยเน้นการพิจารณาความเหมาะสมกับชนิดของความรู้ ลักษณะขนาดสถานที่ตั้งองค์กร ลักษณะการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร และทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น หากเป็นความรู้ที่เป็นเอกสาร จับต้องได้ อาจใช้หนังสือเวียน หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงความรู้ แต่ถ้าหากเป็นความรู้ที่ต้องใช้ประสบการณ์ หรือใช้ประสาทสัมผัส อาจใช้การสอนงานระหว่างทำงาน หรือประสบการณ์โดยตรงเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงความรู้ เป็นต้น
- การฝึกอบรมและการเรียนรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญและหลักการของการจั ดการความรู้ โดยคำนึงถึงความสอดคล้องเกี่ยวกับการกำหนดเนื้อหา กลุ่มเป้าหมาย วิธีการ และการประเมินผลและการปรับปรุงการฝึกอบรม / การเรียนรู้ ซึ่งตัวอย่างหลักสูตร ได้แก่ KM Implementation ชุมชนแห่งการเรียนรู้ (COP) การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรม การใช้ IT เป็นต้น
- การวัดผล เพื่อให้ทราบว่าการดำเนินการได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ และนำผลของการวัดมาปรับปรุงแผนและการดำเนินการให้ดีขึ้น ตลอดจนนำผลการวัดมาใช้ในการสื่อสารกับบุคลากรในทุกระดับให้เห็น ประโยชน์ของการจัดการความรู้
- การยกย่องชมเชยและให้รางวัล เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกระดับ โดยพิจารณาถึงความสอดคล้องด้านความต้องการของบุคลากร แรงจูงใจระยะสั้นและระยะยาว การบูรณาการกับระบบที่มีอยู่ การปรับเปลี่ยนให้เข้ากับกิจกรรมที่ทำในแต่ละช่วงเวลา
แผนการจัดการความรู้ ... กุญแจสู่ความสำเร็จในการจัดการความรู้ในองค์กร
แผนการจัดการความรู้ (KM Action Plan) เป็นแผนงานที่แสดงถึงรายละเอียดการดำเนินงานของกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้องค์กรบรรลุผลตามเป้าหมาย (Desire State) ที่กำหนด
ขั้นตอนการจัดทำแผน KM
(อ้างอิงจากคู่มือการจัดทำแผนการจัดการความรู้ โดย สำนักงาน ก.พ.ร. และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ)
- องค์กรจะต้องมีการกำหนดขอบเขตการจัดการความรู้ หรือ ขอบเขต KM (KM Focus Area) และเป้าหมาย KM (Desire State) ที่องค์กรต้องการเลือกทำ และต้องการจัดการความรู้ที่จำเป็นต้องมีในกระบวนงาน (Work Process) เพื่อสนับสนุนประเด็นยุทธศาสตร์ขององค์กร
- เมื่อองค์กรได้ตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมของขอบเขต KM (KM Focus Area) และเป้าหมาย KM (Desired State)แล้ว ให้นำหัวข้อเป้าหมาย KM ที่องค์กรต้องทำ มาจัดทำแผนการจัดการความรู้ (KM Action Plan) โดยการจัดทำแผนจะขึ้นอยู่กับความพร้อมขององค์กรที่ทำให้เป้าหมา ย KM บรรลุผลสำเร็จ โดยการประเมินองค์กรของตนเองก่อนจัดทำแผน KM
- การประเมินองค์กรของตนเองเรื่องการจัดการความรู้ เป็นกระบวนการที่ทำให้ทราบถึงความพร้อม (จุดอ่อน - จุดแข็ง / โอกาส - อุปสรรค) ในเรื่องการจัดการความรู้ และนำผลการประเมินดังกล่าวมาใช้เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งในการจัดทำแ ผน KM ให้ สอดรับกับเป้าหมาย KM ที่เลือกไว้ โดยองค์กรสามารถเลือกวิธีการประเมินองค์กรตนเองเรื่องการจัดการ ความรู้ที่เหมาะสมกับองค์กร ได้ดังนี้
- ใช้วิธีการประเมินองค์กรตนเองเรื่องการจัดการความรู้ KMAT (The Knowledge Management Assessment Tool : KMAT) ซึ่งเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใช้ในการประเมินองค์กรตนเองในเร ื่องการจัดการความรู้ และให้ข้อมูลกับองค์กรว่ามีจุดอ่อน-จุดแข็ง / โอกาส-อุปสรรค ในการจัดการความรู้เรื่องใดบ้าง โดยเครื่องมือนี้แบ่งออกเป็น 5 หมวด ดังนี้
- หมวด 1 กระบวนการจัดการความรู้
- หมวด 2 ภาวะผู้นำ
- หมวด 3 วัฒนธรรมในเรื่องการจัดการความรู้
- หมวด 4 เทคโนโลยีการจัดการความรู้
- หมวด 5 การวัดผลการจัดการความรู้
- ใช้วิธีอื่น ๆ ในการประเมินองค์กรตนเองเรื่องการจัดการความรู้ เช่น แบบสอบถาม รายงานผลการวิเคราะห์องค์กร เป็นต้น
การประเมินองค์กรตนเองดังกล่าว จะต้องเป็นการระดมสมองกันภายในองค์กรเอง โดยอย่างน้อยจะต้องมีบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามขอ บเขต KM และเป้าหมาย KM เข้าร่วมการประเมินองค์กรด้วย
ผลลัพธ์ที่ได้จากการประเมินตนเองเรื่องการจัดการความรู้ จะต้องเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนกับขอบเขต KM และเป้าหมาย KM ซึ่งจะทำให้การจัดทำแผนการจัดการความรู้สามารถสอดรับกับผลลัพธ์ ที่ได้จากการประเมิน และส่งผลให้เป้าหมาย KM บรรลุผลสำเร็จตามแผนที่กำหนด
- ใช้วิธีการประเมินองค์กรตนเองเรื่องการจัดการความรู้ KMAT (The Knowledge Management Assessment Tool : KMAT) ซึ่งเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใช้ในการประเมินองค์กรตนเองในเร ื่องการจัดการความรู้ และให้ข้อมูลกับองค์กรว่ามีจุดอ่อน-จุดแข็ง / โอกาส-อุปสรรค ในการจัดการความรู้เรื่องใดบ้าง โดยเครื่องมือนี้แบ่งออกเป็น 5 หมวด ดังนี้
- นำผลการประเมินตนเองที่ได้ มาจัดทำแผนการจัดการความรู้ หรือ แผน KM ตามกระบวนการจัดการความรู้ และกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลง โดยให้ระบุถึง
- กิจกรรมต่าง ๆ ตาม กระบวนการจัดการความรู้ (7ขั้นตอน) และกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลง (6 องค์ประกอบ)
- วิธีการสู่ความสำเร็จ
- ตัวชี้วัดความสำเร็จ
- เป้าหมาย
- วัสดุ อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- งบประมาณดำเนินการ
- ผู้รับผิดชอบการดำเนินการ
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้จัดทำ แผนการจัดการความรู้ โดยมีการกำหนดขอบเขต KM หรือกำหนดองค์ความรู้ที่จำเป็นในการปฏิบัติงานเพื่อ สนับสนุนประเด็นยุทธศาสตร์ขององค์กร ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ดังนี้
แผนการจัดการความรู้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 มุ่งเน้นการจัดการความรู้เกี่ยวกับ
- "การส่งเสริม อปท. ในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นให้เชื่อมโยงกับแผนชุมชน"
แผนการจัดการความรู้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 มุ่งเน้นการจัดการความรู้เกี่ยวกับ
- "การส่งเสริม อปท. ในการดำเนินการตามโครงการจัดระเบียบการจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน"
- "การตรวจติดตามการจัดระบบควบคุมภายในของ อปท. ตามระเบียบ คตง. ว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานการควบคุมภายใน พ.ศ. 2544 ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง"
ตัวอย่าง ***การดำเนินการการจัดการความรู้ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553